พระพุทธรูปนาคปรก (ปางสมาธิ) แห่งวัดทุ่งเสลี่ยม สกัดมาจากหินทรายสีเทา อายุราวกว่า 1,000 ปี
ทรงกรองศอพาหุรัดกุณฑล สวมศิราภรณ์และสวมมงกุฎเทริด พระพักตร์ทรงสี่เหลี่ยม นาคที่ปรกอยู่เหนือพระเศียรนั้นมี 7 เศียร ด้านหลังหางนาคพาดขึ้นมาถึงลำตัวมีลวดลายแบบศิลปะลพบุรี นั้นก็คือ “หลวงพ่อศิลา” เป็นชื่อที่ชาวบ้านวัดทุ่งเสลี่ยมเรียกขานกันจนเป็นที่รู้จัก หลวงพ่อศิลาสันนิษฐานอายุราวกว่า 1,000 ปี การได้มากราบไหว้หลวงพ่อศิลานั้นมีความเชื่อว่าคุ้มครองให้ปลอดภัยในการเดินทางและมีโชคมีลาภ

หลวงพ่อศิลาเคยหายไปจากวัดทุ่งเสลี่ยมนานถึง 17 ปี เพราะโดนโจรกรรมหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย และภายหลังนั้นประมาณปี 2537
มีข่าวจากกลุ่มอนุรักษ์ชาวไทยในต่างแดนได้พบข่าวพระศิลาในประเทศอังกฤษ และชาวบ้านทุ่งเสลี่ยมได้ทราบเรื่องจึงติดตามกลับมาได้แต่ก็ผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนจนถึงรัฐบาลตามกลับมาอย่างถูกต้องจนได้ในที่สุด และได้อัญเชิญกลับไปประดิษฐาน ณ วัดทุ่งเสลี่ยมเหมือนเดิม เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2540
สมัยเก่าก่อนนั้นหลวงพ่อศิลาเดิมนั้นอยู่ภายในถ้ำเจ้ารามที่มีค้างคาวอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และวันหนึ่งมีชาวบ้านไปหามูลค้างคาวและเจอกับพระธุดงค์รูปหนึ่งเล่าให้ฟังว่าภายในถ้ำเจ้าราม ชาวบ้านก็ได้นำความมาเล่าให้พระอภัย(เจ้าอาวาสวัดทุ่งเสลี่ยม) ทราบแต่ท่านอายุมากเเล้วไม่สะดวกเดินทางไปอันเชิญมาจึงเลิกล้มไป




ต่อมาครูบาก๋วนเจ้าอาวาสวัดแม่ปะหลวง ตำบลแม่ปะ อำเภอเถิน จ.ลำปาง ได้ทราบและได้ตั้งใจไปอันเชิญออกมาเดินทางมาจนกระทั่งถึงอำเภอทุ่งเสลี่ยม ชาวบ้านก็ได้มีการจัดงานต้อนรับอย่างดีจึงมีเรื่องราวปาฏิหาริย์ขึ้น ท้องฟ้าที่แจ่มใสแสงแดดที่ร้อนแรงของเดือนเมษายนก็ถูกบดบังด้วยเมฆฝนเกิดฝนตกหนักเป็นเวลานานและฝูงค้างคาวบินวนจำนวนมาก แล้วบินกลับถ้ำเจ้ารามไป ทำชาวบ้านได้เห็นความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปศิลาจึงไม่ยอมให้ครูบาก๋วนอัญเชิญกลับไปยังอำเภอเถิน ท่านเจ้าอาวาสวัดทุ่งเสลี่ยมได้ปรึกษาหารือไปยังเจ้าคณะอำเภอสวรรคโลกซึ่งเจ้าคณะอำเภอ ท่านได้ตัดสินให้ประดิษฐานไว้ ณ วัดทุ่งเสลี่ยม
บรรยากาศในบริเวณวัดค่อยข้างสงบร่มรื่น ที่จอดรถสะดวกกว้างขว้าง
แผนที่ Google Map ไปวัดทุ่งเสลี่ยม
ขอขอบคุณข้อมูล
http://www.sukhothailocal.go.th/travel/detail/225/data.html