วัดป่าประดู่ (พระอารามหลวง) ประวัติความเป็นมา
ถ.สุขุมวิท ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงในปี พ.ศ.2523 เดิมนั้นชื่อ วัดป่าเลไลยก์
มีการสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ภายในวัดมีพระพุทธรูปนอนนตะแคงซ้ายที่เก่าแก่ เป็นพระพุทธไสยาสน์ที่แปลกที่สุด ในประเทศไทยเนื่องจากประทับอยู่ในท่านอนตะแคงซ้าย



วัดป่าประดู่มีเนื้อที่ทั้งหมดทั้งสิ้น 95 ไร่ 1 งาน 17 ตารางวา พื้นที่ทั้งหมดใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ ได้แก่ โรงเรียน,โรงพยาบาล,อาคารพาณิชย์และที่อยู่อาศัยของราษฎร เเต่เดิมนั้นเป็นวัดร้างมีต้นประดู่ขนาดใหญ่อยู่จำนวนมาก
ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2372 ได้มีภิกษุรูปหนึ่ง อุปัชฌาย์เทียนพบซากอุโบสถ์หักพัง และมีพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ จึงเห็นว่าเหมาะสมกับการวิปัสนากรรมฐานและยังพบพระพุทธรูปปางไสยาสน์ตะแคงซ้าย เป็นพระพุทธรูปปั้น มีความ 11.95 เมตร สูง 3.60 เมตร ชำรุดอยู่อีกองค์หนึ่ง พุทธศาสนิกชนจึงร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์และได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวง เมื่อวันที่ 16 ต.ค. พ.ศ.2533
ไฮไลท์ของวัดป่าประดู่ : กราบนมัสการสถานศักดิ์สิทธิ์
1.พระพุทธรูปนอนตะแคงซ้าย ปางไสยาสน์ (มีความ 11.95 เมตร สูง 3.60 เมตร) เป็นพระพุทธเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง
เป็นพระพุทธรูปที่แปลกที่สุดในประเทศไทย โดยปกติมักจะสร้างตะแคงขวาแต่ที่วัดแห่งนี้นอนท่าตะแคงซ้าย
สันนิฐานเหตุที่ตะเเคงซ้ายตามพุทธประวัติตอนพระพุทธเจ้ากระทำยมกปาฏิหารย์ให้พวกเดียรถีย์ดู โดยมีพระพุทธนิมิตแสดงอาการอย่างเดียวกับพระพุทธเจ้าเป็นคู่ เมื่อถึงอิริยาบถไสยาสน์จึงผินพระพักตร์เข้าหากันเป็นการนอนตะแคงซ้ายและขวาในลักษณะเดียวกัน

2.พระนั่ง (ประทับนั่งห้อยขา วัดส่วนสูงได้ 6.02 เมตร)
ในวิหารพระปาลิไลยก์ ภายในประดิษฐานพระปางลิไลยก์ของเก่า(พระนั่ง) เเละเคยเป็นพระประธานของวัดมาก่อน

เมื่อนมัสการพระนั่งเเล้วถ้าออกมากจากโบสถ์แล้วได้ตีระฆัง 9 มงคล จะเป็นมงคลต่อตัวเองและสิ่งศักดิ์ได้รับทราบ เพื่ออนุโมทนาบุญการเคาะระฆังเป็นการถวายบูชา เนื่องจากเสียงระฆังมีความดังกังวานเปรียบเสมือนพระคุณของพระรัตนตรัยที่แผ่กังวานไปทั่วจักรวาล การได้เคาะนะฆังถวายเป็นพุทธบูชา ทำให้อานิสงส์ที่จะส่งผลให้เกิดในชาติต่อๆไป เป็นผู้มีเกียรติยศชื่อเสียงขจรไปทั้งสี่ทิศและมีเสียงสำเนียงที่ไพเราะน่าฟัง ไปไหนก็มีคนรู้จักเคารพนับถือ ไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็เจริญก้าวหน้า การตีระฆังให้หันหน้าเข้าหาพระนั่ง ก้าวออกทางซ้ายแล้วเวียนขวามือ
3.เจดีย์อายุร้อยกว่าปี

4.วิหารบูรพาจาร์ย์
5.ลอดโบสถ์โบราณวัดป่าประดู่
โบสถ์เก่าโบราณอายุกว่า 100 ปี สร้างขึ้นในสมัยปี พ.ศ. 2449 ตรงกับสมัยรัชกาลที่5 เป็นศิลปกรรมในยุคสมัยต้นรัตนโกสินทร์
โบสถ์นี้ได้รับอิทธิพลจากศิลปะจีน กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานที่มีหน้าบันสวยที่สุดในภาคตะวันออกอีกด้วย
ด้านล่างนี้สามารถลอดโบสถ์โบราณเพื่อความเป็นสิริมงคลได้อีกด้วย โดยทั่วไปแล้วความเชื่อการรอดโบสถ์ทำให้เเคล้วคลาดปลอดภัยและด้านล่างมีลูกนิมิตรโบราณ 9 ลูก และยังมีช่องมองจากด้านล่างขึ้นมาเห็นพระประธานด้านบนได้อีกด้วย






สิ่งที่สำคัญจากสมัยโบราณที่ยังมีให้เห็นภายในวัดจนถึงปัจจุบัน
ต้นตาลขดมหัศจรรย์ที่วัดป่าประดู่
ปกติโดยทั่วไปต้นตาลมันต้องมีลำต้นที่ตรง เเต่ต้นตาลที่นี้มีลำต้นขดคล้ยพญานาค ชาวบ้านที่ผ่านไปมาเห็นเป็นสิ่งแปลกประหลาด จึงมากราบไหว้ขอพรก็สมหวังกันมาก จึงมีผู้มาตั้งศาลขดขึ้นและเป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไป คนใดลบหลู่ดูหมิ่นก็จะมี
อันเป็นไปจนต้องมากราบขอขมาจนเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว พอกาลเวลาผ่านไปทำให้ต้นตาล พุพังไปตามกาลเวลาจนปัจจุบันเหลือเพียงเเค่เท่านี้ เเต่ก็ยังมีผู้คนมากราบไหว้บูชา ผู้ใดมาผูกผ้า 3 สี ขอพรก็จะสมหวังตามปราถนา (อ้างอิงจากรูปภาพด้านล่างนี้)

บ่อน้ำอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี

โเส้นทางการเดินทางมาวัดป่าประดู่ ใช้เส้นทางสุขุมวิท (หมายเลข 3 ) ทางเข้าวัดป่าประดู่ติดถนนสุขุมวิท (นครระยอง 49) เลยโรงพยาบาลระยองมานิดนึงอยู่ฝั่งเดียวกัน
แผนที่ Google Map : วัดป่าประดู่