วัดใหญ่ชัยมงคล เจดีย์ใหญ่สัญลักษณ์แห่งชัยชนะ



วัดนี้เดิมพระเจ้าอู่ทองทรงสร้างเมื่อ พ.ศ.1900 สำหรับเป็นสำนักของพระสงฆ์ ซึ่งไปบวชเรียนมาแต่สำนักพระ วันรัตนมหาเถรในลังกาทวีปเรียก นิกายนี้ว่า”คณะป่าแก้ว” จึงได้นามว่า วัดป่าแก้ว ต่มาคนทั้งหลายพากันเลื่อมใสบวชเรียนพระสงฆ์นิกายนี้ก็เจริญแพร่หลาย พระราชาธิบดีจึงตั้งอธิบดีสงฆ์นิกายนี้เป็นสมเด็จพระวันรัตนมีตำแหน่ง เป็นสังฆราชฝ่ายขวาคู่กับพระพุทธโฆษาจารย์เป็นอธิบดีสงฆ์ ฝ่ายคันถธุระคือสังฆราช ฝ่ายซ้ายและวัดนี้เป็นที่สถิตของสมเด็จพระสังฆราชจึงได้ชื่อว่า “วัดพญาไท” พระมหาอุปราชาแห่งพม่าได้ยกกองทัพเข้าตีกรุงศรีอยุธยาเมื่อ พ.ศ. 2135 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงยกกงอทัพออกไปต่อสู้ข้าศึกจนได้ชนช้าง กับพระมหาอุปราชาที่ตำบลหนองสาหร่าย แขวงเมืองสุพรรณบุรี



สมเด็จพระนเรศวรมหาราชมีชัยทรงฟันคู่ต่อสู้สิ้นพระชนม์บนคอช้าง แต่ครั้งนั้นไม่สามารถตีกองทัพขาศึกให้ยับเยินได้
เนื่องจากกงอทัพต่างๆ ติดตามไปไม่ทันพระองค์ ครั้งเมื่อเสด็จกลับจากางครามแล้ว สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ทรงพิโรธเหล่าบรรดาแม่ทัพนายกองเหล่านั้น จะให้ประหารชีวิตแม่ทัพนายกอที่ตามเสด็จไปไม่ทันเสียให้หมด
สมเด็จพระวันรัตนวัดป่าแก้วถวายพระพร ขอพระราชทานโทษไว้แล้วทูลแนะนำให้สร้างเจดีย์ไว้เป็นที่ระลึกเพื่อเฉลิมพระเกียรติยศที่ได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้
โดยให้เหตุผลว่าพระองค์เปรียบดังพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่แวดล้อมด้วยหมู่มารก่อนที่จะตรัสรู้ เป็นการประกาศเกียรติและบารมีความกล้าหาญและเก่งกาจของพระองค์ให้ขจรกระจายไปทั่วแคว้นทั่วแผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรจึงโปรดให้สร้างเจดีย์องค์ใหญ่ขึ้น เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะและความมีน้ำพระทัยของพระองค์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชโปรดให้สร้างเจดีย์ใหญ่ขึ้นที่วัดแห่งนี้ ขนานนามว่าพระเจดีย์ชัยมงคลต่อมาจึงเรียก วัดใหญ่ชัยมงคล
องค์เจดีย์มีความใหญ่โตมากบริเวณโดยรอบพระเจดีย์ชัยมงคล มีพระพุทธรูปเรียงราย ประดิษฐานอยู่งดงาม และพระเจดีย์ชัยมงคล เราสามารถเดินขึ้นไปเยี่ยมชมความสวยงามด้านบนของเจดีย์ใหญ่ได้บริเวณด้านจะมีชานรอบๆ สามารถเดินรับลมชมวิวถ่ายเก็บภาพสวยงามได้หลากหลายมุมมากเลย และภายในวัดยังมีพระพุทธไสยาสน์ ให้กราบไว้อีกด้วย
แผนที่ Google Map
ขอบคุณข้อมูล https://ww2.ayutthaya.go.th/travel/detail/37