ชื่อใหม่เป็น ‘วัดมงคลจินดาราม’ ทว่าชาวบ้านก็ยังคงเรียกด้วยความคุ้นเคยว่า ‘วัดไร่ขิง’
วัดไร่ขิงสร้าวขึ้นเมื่อใดยังไม่ทราบแน่ชัด ตามตำนานที่เล่าขานของหลวงพ่อวัดไร่ขิงนั้น มีความน่าอัศจรรย์ พระพุทธรูปหลวงพ่อวัดไร่ขิง
ซึ่งประดิษฐานในพระอุโบสถ ตามตำนานเล่าว่าลอยน้ำมาและอัญเชิญขึ้นไว้ที่วัดศาลาปูน องค์พระพุทธรูปเป็นเนื้อทองสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย พุทธลักษณะงดงามด้วยพุทธศิลป์ 3 สมัย คือ พระรูปผึ่งผายแบบเชียงแสน พระหัตถ์เรียวงามแบบสุโขทัย และพระพักตร์งดงามในแบบรัตนโกสินทร์
ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชี 5 ชั้น สันนิษฐานว่าเป็นฝีมือช่างสมัยไทยล้านนาและล้านช้าง พระอุโบสถของวัดเป็นศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น รอบพระอุโบสถมีวิหารประจำทิศต่างๆทั้งสี่ทิศ ศาลาจัตุรมุขตั้งอยู่ด้านหน้าและด้านหลังของอุโบสถ เป็นศาลาทรงไทย 4 มุข มีมณฑปกลางสระน้ำ เป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตกของอุโบสถ
พื้นที่รอบวัดยังมีท้าวเวสสุวรรณขนาดใหญ่ และอนุสาวรีย์สามนายพรานที่มีประวัติเล่าสืบต่อกันมา ที่มาของอำเภอสามพราน ครั้งเมื่อในสมัยที่พระยาพาน เป็นเจ้าเมืองนครศรีวิชัย ปัจจุบันคือ อำเภอนครชัยศรี มีช้างป่าลักษณะดี ฉลาดและทรงพลังเหมาะสมที่จะเป็นช้างศึก พระยาพานมีพระประสงค์ให้จับแต่ไม่มีใครสามารถจับได้
จนกระทั่งมีพรานสามคนอาสาจับช้าง โดยใช้วิธีขุดหลุมพลางขนาดใหญ่ไว้ในเส้นทางที่ช้างป่าเชือกนี้เดินผ่านเป็นประจำ และด้วยความเฉลียวฉลาดของพรานทั้งสามจึงสามารถจับช้างไปถวายพระยาพานได้ ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านจึงนิยมเรียกบริเวณที่จับช้างได้ว่า ตำบลสามพราน และได้ตั้งชื่อเป็นอำเภอสามพราน มาจนปัจจุบัน และได้สร้างอนุสาวรีย์ขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ไว้สืบไป
- วัดใหม่สุปดิษฐาราม (พระสีวลีองค์ใหญ่) จ.นครปฐม
- วัดดอนขนาก จ.นครปฐม (ไหว้พระนอน ลอดโบสถ์)
- องค์พระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม
- วัดไผ่ล้อม (หลวงพ่อพูล) จ.นครปฐม
- วัดสามพราน (พญามังกรตะกายฟ้า) จ.นครปฐม
- วัดไร่แตงทอง (หลวงปู่หลิว) จ.นครปฐม
แผนที่เดินทาง : วัดไร่ขิง
ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติม
https://www.nakhonpathom.go.th/travel_top10/detail/7